🔖 จำลองแบบพระคริสต์ ฉบับเพื่อนๆ ... ภาค 2

💘 บทที่ 12
กางเขนคือหนทางนำไปสู่พระราชัย

.
🌿 (1) “ใครก็ตามที่ปรารถนาจะติดตามเรา จงเลิกคิดถึงตนเอง จงแบกกางเขนของตนและติดตามเรา”

คำพูดประโยคนี้ ดูจะรุนแรงเกินไปสำหรับหลายๆคน แต่มันจะรุนแรงกว่านั้นอีก เมื่อได้ยินคำพูดที่ว่า

“ไปให้พ้น เจ้าคนชั่ว จงไปสู่ไฟนรกนิรันดร”

สำหรับผู้ที่เชื่อ เขาจะแบกกางเขนของตนและติดตามพระเยซูเจ้า เขาจะไม่หวาดกลัวต่อคำพิพากษานิรันดร

ในวันที่องค์พระผู้เป็นเจ้าเสด็จมาเพื่อพิพากษา เครื่องหมายกางเขนจะปรากฏบนท้องฟ้า ทุกคนที่ได้ดำเนินชีวิตตามหนทางแห่งกางเขน จะได้รับการต้อนรับอย่างมั่นใจ ให้เป็นหนึ่งเดียวกับพระเยซูคริสตเจ้า องค์ผู้พิพากษาของเรา

.
🌿 (2) เหตุใดท่านจึงหวาดกลัวที่จะแบกกางเขน กางเขนซึ่งจะนำท่านไปสู่พระอาณาจักรของพระเป็นเจ้า

กางเขนคือขุมทรัพย์

กางเขนคือชีวิต

การเขนคือเครื่องป้องกันท่านจากศัตรู

กางเขนคือสวรรค์

กางเขนคือกำลังของจิตใจ

กางเขนคือความชื่นชมยินดีของวิญญาณ

กางเขนคือคุณธรรมอันสูงส่ง

กางเขนคือความบริบูรณ์แห่งความครบครัน

ขุมทรัพย์แห่งวิญญาณ ความหวังในชีวิตนิรันดร มีอยู่ในกางเขนเท่านั้น

เพราะเหตุนี้ จงหยิบกางเขนของท่านขึ้น แบกไว้ และติดตามพระเยซูเจ้าไปเถิด ท่านจะเดินไปสู่ชีวิตนิรันดร

พระเยซูเจ้าได้แบกกางเขนของพระองค์ เดินนำหน้าท่าน พระองค์ได้สิ้นพระชนม์บนกางเขนเพื่อท่านแล้ว เพื่อ ท่านจะได้แบกกางเขนของท่าน และยินดีที่จะตายบนกางเขนนั้นเช่นกัน

เพราะเมื่อท่านตายพร้อมกับพระองค์ ท่านจะมีชีวิตอยู่กับพระองค์

ถ้าท่านมีส่วนร่วมในความทุกข์ทรมานของพระองค์ ท่านก็จะมีส่วนในพระสิริรุ่งโรจน์ของพระองค์ด้วยเช่นกัน

.
🌿 (3) จงรู้เถิดว่า ทุกอย่างขึ้นอยู่กับกางเขน และความตาย

ไม่มีหนทางอื่นใดที่จะนำท่านไปสู่ชีวิต และสันติสุขที่แท้จริงภายในจิตวิญญาณได้ นอกจากหนทางแห่งกางเขนศักดิ์สิทธิ์ และการพลีกรรมทุกๆวัน

จงไปทุกๆที่ ที่ท่านต้องการ จงแสวงหาทุกๆอย่างที่ท่านปรารถนา และท่านจะพบว่า ณ เบื้องบน ไม่มีหนทางใดที่ดีกว่านี้ ณ เบื้องล่าง ก็ไม่มีหนทางใดที่ปลอดภัยเท่าหนทางนี้ นั่นคือ หนทางแห่งกางเขนศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น

จงจัดเตรียม และจัดการทุกสิ่งทุกอย่างตามที่ท่านต้องการ ตามที่ท่านเห็นว่าเหมาะสมและดีที่สุด แล้วท่านจะพบว่า มีบางสิ่งบางอย่างที่ทำให้ท่านต้องทุกข์ทรมานอยู่เสมอ

ไม่ว่าท่านจะเต็มใจหรือไม่ก็ตาม ท่านจะพบกางเขนของท่านอยู่ทุกหนทุกแห่ง อาจเป็นความเจ็บป่วยทางร่างกาย หรือความทุกข์ร้อนทางด้านจิตใจ

.
🌿 (4) บางครั้งท่านอาจจะรู้สึกว่า พระเป็นเจ้าทอดทิ้งท่าน บางครั้งท่านอาจจะถูกเพื่อนบ้านทำให้รู้สึกรำคาญใจ ... และบ่อยครั้งท่านอาจจะรู้สึกหนักใจมากกว่านั้นอีกหลายเท่าเพราะตัวท่านเอง

ท่านไม่สามารถเยียวยารักษาหรือแก้ไขสถานการณ์หรือความรู้สึกต่างๆเหล่านั้นได้ ท่านต้องยอมรับเพราะนั่นคือน้ำพระทัยขององค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์ปรารถนาให้ท่านรู้จักกับความทุกข์ยากลำบาก โดยไม่ได้รับความบรรเทาใจใดๆ

พระองค์ปรารถนาให้ท่านเรียนรู้ที่จะยอมรับสิ่งเหล่านั้นด้วยตัวท่านเอง

ความทุกข์ยากลำบากเหล่านั้น จะช่วยทำให้ท่านเป็นคนสุภาพมากขึ้น

ไม่มีใครเข้าใจความทุกข์ทรมานของพระเยซูเจ้าได้ เท่ากับผู้ที่ได้รับความทุกข์ทรมานในชีวิตด้วยตัวเขาเอง

กางเขนมีอยู่ตลอดเวลา และมีอยู่ทุกๆที่ และกำลังรอคอยท่านอยู่ ท่านไม่สามารถหลบหนีกางเขนไปได้ ไม่ว่าท่านจะไปทางไหน หรือหลบซ่อนอยู่ ณ ที่แห่งใด ...

ไม่ว่าท่านจะมาจากไหน ท่านมีตัวตนของท่าน ซึ่งท่านจะต้องแบกไปทุกหนทุกแห่ง และพบตัวตนของท่านอยู่ตลอดเวลา

ไม่ว่าท่านจะเงยหน้าขึ้นสู่เบื้องบน หรือก้มหน้าลงสู่เบื้องล่าง ไม่ว่าท่านจะมองออกไปข้างนอก หรือมองกลับเข้าสู่ภายใน

ท่านจะพบตัวท่านเองและกางเขนของท่าน ...

สิ่งจำเป็นที่สุดสำหรับท่านคือ ความอดทน เพื่อท่านจะได้พบสันติสุขภายในจิตใจและได้รับมงกุฎนิรันดร

.
🌿 (5) หากท่านเต็มใจแบกกางเขน กางเขนก็จะแบกท่านไว้ และนำท่านไปสู่จุดหมายปลายทางที่ท่านแสวงหา

จุดหมายปลายทางนั้นคือการสิ้นสุดของความทุกข์ยากลำบาก แม้นว่า มันอาจจะไม่ใช่บนโลกนี้ก็ตาม

ถ้าท่านไม่เต็มใจที่จะแบกกางเขนของท่าน ท่านก็สร้างภาระให้แก่ตนเอง และเพิ่มภาระนั้นให้หนักมากขึ้น

ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ท่านยังต้องแบกกางเขนของท่านอยู่ดี

ถ้าท่านหลีกหนีการแบกกางเขนหนึ่ง ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ท่านจะพบกางเขนอีกอันหนึ่งกำลังรอคอยท่านอยู่ และแน่นอนว่าจะหนักกว่ากางเขนที่ท่านหลีกหนีมา

.
🌿 (6) ท่านคิดว่า ท่านสามารถหลีกหนีสิ่งที่ไม่มีใครหนีพ้นได้หรือ

มีนักบุญองค์ใดบ้างบนโลกนี้ ที่ไม่ต้องแบกกางเขน หรือไม่ต้องผ่านความทุกข์ทรมานต่างๆ แม้นแต่พระเยซูเจ้า องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา

ตลอดชีวิตของพระองค์บนโลกนี้ ไม่มีสักชั่วโมงเดียวที่พระองค์ไม่ทุกข์ทรมาน พระองค์ตรัสว่า

“พระคริสตเจ้าจำเป็นต้องรับความทุกข์ทรมาน และกลับคืนชีพจากความตาย เพื่อจะเข้าสู่พระสิริรุ่งโรจน์ของพระองค์”

เพราะเหตุนี้ เหตุใดท่านจึงมัวแสวงหาหนทางอื่นซึ่งไม่ใช่หนทางที่สง่างาม ไม่ใช่หนทางแห่งกางเขนศักดิ์สิทธิ์

.
🌿 (7) ตลอดชีวิตของพระเยซูคริสตเจ้าคือกางเขน และมรณสักขี แต่ท่านกลับแสวงหาการพักผ่อนและความรื่นรมย์

ถ้าท่านแสวงหาสิ่งอื่นและหลีกเลี่ยงความทุกข์ทรมาน นั่นหมายความว่า ท่านกำลังหลงทาง หลงทางอย่างแท้จริง ...

เพราะชีวิตมนุษย์นั้นเต็มไปด้วยความทุกข์ และห้อมล้อมด้วยกางเขน

คนที่ก้าวหน้าทางด้านจิตวิญญาณมากเท่าไร เขาจะพบว่า กางเขนที่เขาต้องแบกนั้น หนักมากขึ้นไปด้วย

ทั้งนี้ เพราะความรักของเขา ทำให้ความทุกข์โศกเศร้าในการถูกเนรเทศนี้เพิ่มมากขึ้น

.
🌿 (8) กระนั้นก็ดี ผู้ที่ต้องทนทุกข์ทรมานอย่างมากมายนี้ ไม่ได้หมายความว่า เขาจะไม่ได้รับความบรรเทาใจ

เขารู้ดีว่า การยอมรับแบกกางเขนของเขานี้ ก่อให้บังเกิดผลอย่างอุดมสมบูรณ์ต่อการเติบโตของชีวิตภายในของเขา

เพราะขณะที่เขายอมรับความทุกข์ยากลำบาก ความทุกข์ยากลำบากเหล่านั้น จะแปรเปลี่ยนเป็นความไว้วางใจในความบรรเทาใจที่เขาจะได้รับจากองค์พระผู้เป็นเจ้า

และยิ่งเขารู้สึกเจ็บปวดหรือทุกข์ทรมานมากเท่าไร จิตวิญญาณของเขา ก็จะเข้มแข็งขึ้นด้วยพระหรรษทานขององค์พระผู้เป็นเจ้ามากขึ้นเท่านั้น

บ่อยครั้งทีเดียวที่เขารู้สึกว่า ความทุกข์ทรมานคือความบรรเทาใจสำหรับเขา ทั้งนี้ เพราะความรักที่เขามีต่อพระเยซูคริสตเจ้า ทำให้เขาปรารถนาจะเป็นเหมือนพระองค์ซึ่งรับทรมานบนไม้กางเขน ...

เขาไม่สามารถมีชีวิตอยู่โดยปราศจากความโศกเศร้าและความทุกข์ทรมาน เพราะเขาเชื่อว่า การยอมรับความทุกข์ทรมานเพื่อพระองค์มากเท่าใด เขาก็จะได้รับการยอมรับจากองค์พระผู้เป็นเจ้ามากขึ้นเท่านั้น

สิ่งนี้ไม่ใช่คุณงามความดีของมนุษย์ แต่เป็นพระหรรษทานของพระเยซูคริสตเจ้าซึ่งมีฤทธิอำนาจและพลังเหนือความอ่อนแอฝ่ายเนื้อหนังของมนุษย์

โดยธรรมชาติแล้ว มนุษย์จะกลัวและหลีกหนีความทุกข์ทรมาน แต่เพราะฤทธิ์อำนาจอันน่าอัศจรรย์ของพระหรรษทาน จิตวิญญาณกลับแสวงหาสิ่งเหล่านั้น

.
🌿 (9) ไม่ใช่ธรรมชาติมนุษย์ที่จะยอมรับแบกกางเขน

ไม่ใช่ธรรมชาติของมนุษย์ที่จะรักกางเขน หรือยอมให้ร่างกายอยู่ใต้กางเขน ยอมสยบอยู่ใต้กางเขน

ไม่ใช่ธรรมชาติของมนุษย์ที่จะยอมรับการดูหมิ่น และหยามศักดิ์ศรี และสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกนี้ ....

ถ้าท่านถามตนเอง ท่านก็จะได้คำตอบว่า ท่านคงทนไม่ได้อย่างแน่นอน ...

แต่ถ้าท่านวางใจในองค์พระผู้เป็นเจ้า ท่านจะได้รับพละกำลังจากสวรรค์ และเมื่อนั้น โลกทั้งโลก และเนื้อหนังทั้งหมดของท่านจะอยู่ภายใต้อำนาจของท่าน

ถูกแล้ว ท่านจะไม่กลัวปีศาจซึ่งเป็นศัตรูกับท่าน ท่านจะมีความเชื่อเป็นอาวุธ และมีกางเขนของพระเยซูคริสตเจ้าเป็นตราประทับ

.
🌿 (10) เพราะเหตุนี้ จงเป็นผู้รับใช้ที่ดีและซื่อสัตย์ต่อพระเยซูคริสตเจ้า จงแบกกางเขนขององค์พระผู้เป็นเจ้าของท่าน พระองค์ยอมตายบนกางเขนเพื่อท่าน และเพราะความรักที่พระองค์มีต่อท่าน

จงเตรียมตัวของท่านให้พร้อมที่จะแบกรับความทุกข์ยากลำบากต่างๆ และปัญหามากมายในชีวิตที่น่าเวทนานี้ เหตุว่า สิ่งต่างๆเหล่านี้จะอยู่กับท่านตลอดชีวิตของท่าน

ท่านจะพบความยากลำบากในการกระทำทุกอย่าง

ท่านจะพบความยากลำบากในทุกๆที่ที่ท่านอยู่

สิ่งนี้เป็นสิ่งจำเป็น และไม่มีวิธีการใดที่จะช่วยท่านให้หลบหนีไปจากความทุกข์และความโศกเศร้าได้ นอกจากยอมรับทุกอย่างด้วยความอดทน

จงดื่มถ้วยกาลิกส์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าที่ท่านรักเถิด

ถ้าท่านปรารถนาจะเป็นเพื่อนกับพระเยซูเจ้า และมีส่วนร่วมกับพระองค์ จงมอบทุกสิ่งทุกอย่างไว้ในพระหัตถ์ขององค์พระผู้เป็นเจ้า

จงปล่อยให้พระองค์ทำทุกสิ่งที่พระองค์เห็นว่าสมควร ..

ส่วนท่าน จงยอมรับความทุกข์ทรมาน และระลึกอยู่เสมอว่า นี่คือความบรรเทาใจที่ดีที่สุด เพราะคุณค่าแห่งความทุกข์ทรมานในขณะนี้ เทียบไม่ได้เลยกับพระสิริมงคลที่จะเผยแสดงในตัวท่านในอนาคต และถ้าจะสมมติว่า ท่านได้สู้ทนกับความทุกข์ทรมานของโลกนี้ทั้งหมดคนเดียว ก็ยังมิอาจเทียบได้เช่นกัน

.
🌿 (11) เมื่อท่านก้าวมาถึงจุดนี้ ท่านจะรู้ว่า ความทุกข์ทรมานเหล่านั้น ช่างหวานชื่นและเป็นที่น่าปรารถนาที่ท่านสมควรจะน้อมรับเพื่อเห็นแก่พระเยซูคริสตเจ้า

จงถือว่า สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่ดีสำหรับท่าน เพราะท่านจะพบสวรรค์บนแผ่นดินนี้

หากท่านยังรู้สึกว่า ความทุกข์ทรมานเป็นเรื่องที่ขมขื่นและพยายามจะหลีกหนี ถ้าท่านไม่สามารถจะมีชีวิตอยู่อย่างสันติสุขกับความทุกข์ทรมานเหล่านี้ได้ ความทุกข์ทรมานเหล่านี้จะติดตามท่านไปทุกหนทุกแห่ง

.
🌿 (12) แต่ถ้าท่านยอมรับทุกอย่างตามความเป็นจริง นั่นคือ ชีวิตต้องพบกับความทุกข์ยากลำบากและความตาย ท่านจะรู้สึกดีขึ้นและพบสันติสุข

แม้นท่านจะถูกยกขึ้นสู่สวรรค์ชั้นที่ 3 เหมือนนักบุญเปาโล ท่านก็ยังคงต้องรับความทุกข์ทรมาน พระเยซูเจ้าตรัสว่า “เราจะแสดงให้เขารู้ว่า เขาต้องทนทุกข์ทรมานมากเท่าใด เพราะนามของเรา”

เพราะเหตุนี้ ความทุกข์ทรมานจะคงอยู่กับท่าน ท่านจะต้องอดทน หากท่านรักและปรารถนาจะรับใช้พระเยซูเจ้า

.
🌿 (13) เป็นบุญของท่าน ที่ยอมรับความทุกข์ทรมานเพราะเห็นแก่พระนามของพระเยซูเจ้า เกียรติมงคลยิ่งใหญ่กำลังรอท่านอยู่ บรรดานักบุญจะชื่นชมยินดี

สิ่งที่ท่านทำจะเป็นแบบอย่างที่สวยสดงดงามแก่เพื่อนบ้านของท่าน เหตุว่า ความพากเพียรและความอดทนนั้นเป็นสิ่งที่น่ายกย่อง แต่มีเพียงไม่กี่คนที่ยินดีจะปฏิบัติตาม

ท่านจงมั่นใจในการยอมรับความทุกข์ทรมานเพียงเล็กน้อยเพื่อพระเยซูคริสตเจ้า เหตุว่ายังมีคนอีกมากที่กำลังรับความทุกข์ทรมานมากกว่าท่าน เพื่อความรอดของโลกนี้

.
🌿 (14) จงตระหนักรู้เถิดว่า ท่านควรจะดำเนินชีวิตเหมือนคนที่ตายแล้ว ยิ่งเราตายต่อตนเองมากเท่าไร เราก็เริ่มจะมีชีวิตอยู่เพื่อองค์พระผู้เป็นเจ้ามากขึ้นเท่านั้น

เป็นการยากที่จะเข้าใจเรื่องของสวรรค์ ยกเว้น ท่านจะอุทิศตนยอมรับความทุกข์ทรมาน เพราะเห็นแก่พระคริสตเจ้า

ไม่มีสิ่งใดเป็นที่โปรดปรานขององค์พระผู้เป็นเจ้า ไม่มีสิ่งใดมีค่าสำหรับท่านบนโลกนี้ มากไปกว่าการยอมรับความทุกข์ทรมานด้วยความเต็มใจเพราะเห็นแก่พระคริสตเจ้า

ถ้าท่านสามารถเลือกได้ ท่านควรจะเลือกความทุกข์ทรมานเพื่อพระคริสตเจ้ามากกว่าความบรรเทาใจ เพราะท่านจะเป็นเหมือนพระคริสตเจ้าและสอดคล้องกับการกระทำของบรรดานักบุญ

บุญกุศลและการเจริญเติบโตของเราในพระหรรษทานไม่ได้อยู่ที่ความสุขหรือความบรรเทาใจ แต่อยู่ที่การยอมรับความยากลำบากและความทุกข์ทรมาน

.
🌿 (15) ความจริงแล้ว หากมีสิ่งอื่นที่ดีกว่า หรือเหมาะสมกว่าสำหรับความรอดของมนุษย์ แน่นอนว่า พระเยซูคริสตเจ้าจะต้องบอกเราด้วยคำพูดและการกระทำอย่างแน่นอน

แต่พระเยซูเจ้าได้แนะนำอย่างง่ายๆ และเปิดเผยแก่บรรดาอัครสาวกที่ติดตามพระองค์ และผู้ปรารถนาจะติดตามพระองค์ว่า ให้แบกกางเขน พระองค์ตรัสว่า

“ใครก็ตามที่ปรารถนาจะติดตามเรา จงเลิกนึกถึงตนเอง จงแบกกางเขนของตนและตามเรามา”

บัดนี้ ท่านได้อ่าน ได้ฟัง และได้พินิจพิจารณาทุกอย่าง อย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้ว อาจสรุปได้ว่า

“มนุษย์จะต้องผ่านความทุกข์ทรมานเพื่อเข้าสู่พระอาณาจักรขององค์พระผู้เป็นเจ้า” 🍀

🌷 ติดตามได้ที่ www.voicewithyou.com 🌷
***
https://www.youtube.com/watch?v=vcd7CEoHEq4
***